## พอเพียงไม่ใช่วิธีชีวิตแบบเก่า แต่เป็นกลยุทธ์เอาตัวรอดยุคนี้

ถ้าถามคนไทยว่า "เศรษฐกิจพอเพียงคือ" คำตอบที่ได้มักจะวนไปเรื่อย ๆ เหมือนการท่องบทบาทภาวะชาวบ้าน แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่เรื่องงี่เง่าแบบที่คิด เป็นปรัชญาการเงินที่ลึกกว่า และเกี่ยวข้องกับการเก็งกำไร การบริหารความเสี่ยง แม้กระทั่งการวางแผนธุรกิจยุคสมัยใหม่

## เศรษฐกิจพอเพียง หมายความว่าเอาตัวรอดได้ ทำแบบนี้

ในความหมายแท้ เศรษฐกิจพอเพียงคือการดำเนินชีวิตที่ยืดหยุ่นพอ บนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่ ไม่ใช่การไม่มีความโลภ แต่เป็นการเลือกโลภให้เป็น ให้นั่นคือ บุคคลทุกคน ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน หรือแม้แต่ระดับประเทศ ล้วนต้อง "ยืนได้เอง" ด้วยการใช้เหตุผล ไม่คร่ำครวญ และมีแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

การดำเนินชีวิตแบบพอเพียงที่ถูกต้องต้องสร้างบนเสา 3 ต้น คือ ความพอประมาณ (ไม่ใช้เกินตัว) ความมีเหตุผล (ลงทุนเมื่อรู้ว่าทำไม) และระบบภูมิคุ้มกัน (มีแบ็คอัปเสมอ) บวกเข้ากับ 2 คุณสมบัติ คือ ความรู้ (เรียนรู้อย่างไม่หยุด) และคุณธรรม (ไม่หลอก ไม่เอาเปรียบ)

## จากพระราชดำรัส มาเป็นวิธีรอดยุควิกฤต

ที่มาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2517 เวลาที่ประเทศยังโยกตัวอยู่ในวิวัฒนาการทางเศรษฐกิจ มีแผนลงทุนใหญ่ ๆ จำนวนมาก ส่วนใหญ่กู้มาจากต่างประเทศ ผลก็คือ ได้เศรษฐกิจเติบโตจริง แต่เหลือความเสี่ยงมากมาย เศษกลม จะกว่าปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ขณะนั้นก็เป็นเวลาที่หลัก "พอเพียง" ออกมาเป็นแสงสว่างจริง ๆ

ไม่นานหลังจากวิกฤตระเบิด นีวของเศรษฐกิจพอเพียง จึงแพร่ไปทั่วไทยและต่างประเทศอย่างรวดเร็ว หลายคนรู้สึกตัวว่า หลักการนี้มันตรงกับแนวคิด Sustainable Development Goals (SDGs) ของสหประชาชาติ ซึ่งเน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน และในปี 2549 สหประชาชาติก็ยกย่อง "เศรษฐกิจพอเพียง" ว่าเป็นปรัชญาที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งตั้งชื่อให้เป็น "Developer King"

## ในทางปฏิบัติ เศรษฐกิจพอเพียงดูแบบไหน

### ในธุรกิจและพาณิชย์

ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ การนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ หมายความว่า

- เลือกเทคโนโลยีที่คุ้มค่า ราคาดี คุณภาพสูง ไม่ต้องทำให้ใหญ่โตมากเกินตัว
- ขนาดการผลิตต้องสมดุลกับความสามารถในการจัดการ ไม่เอาเกินไป
- กระจายความเสี่ยง กำไรให้ยั่งยืนแบบยาว ไม่เก็บเกี่ยวตั้งแต่ปีแรก
- ต้องซื่อสัตย์สุจริต ไม่หลอกลูกค้า คนงาน หรือซัพพลายเยอร์
- ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ขายให้คนเมือง แต่สถานที่หลักอยู่ในภูมิภาค

### ในการเกษตร

เกษตรกรที่นำเศรษฐกิจพอเพียง ทำลงเอยแบบนี้

**การเกษตรแบบหลากหลาย** - ไม่ปลูกแค่ข้าว แต่ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ ขุดสระน้ำ ดังนั้นแม้พืชชนิดหนึ่งไม่ติด ก็ยังมีอาหารขึ้นมา รายได้ก็ไม่หายไป

**ทฤษฎีใหม่ระดับพื้นฐาน** - แบ่งที่ดินเป็น 4 ส่วน ตามสัดส่วน 30:30:30:10 (ข้าว ปลา ผัก สัตว์) จึงเกิดความสมดุล ไม่ต้องกู้ยืมเงินเพื่อหารายได้นอกฤดู

**ทฤษฎีใหม่ขั้นก้าวหน้า** - เกษตรกรรวมกลุ่มกันขายสินค้า ไม่โดนพ่อค้าคนกลางกดราคา ตัวเองกับครอบครัวมั่นคง

**ทฤษฎีใหม่ระดับชุมชน** - จัดตั้งสหกรณ์ สร้างกองทุน แลกเปลี่ยนความรู้ ชุมชนตั้งหนึ่งกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจได้

## ลงลึก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ของเศรษฐกิจพอเพียง

**ความพอประมาณ** คือการใช้จ่ายตามสิ่งที่หารายได้ได้ ไม่ใช่จ่ายแล้วกู้ยืม ความสมดุลระหว่างเข้าออก ประเด็นเดียวคือไม่เสำเลาะ

**ความมีเหตุผล** - ก่อนลงมือทำอะไร ต้องคิดอย่างรอบครอบ วางแผนรัดกุม ต่อต้านอารมณ์ต่อการตัดสินใจ

**ระบบภูมิคุ้มกัน** - มีแผนสำหรับแผนสำหรับ ไม่ตกใจเมื่อเศรษฐกิจเปลี่ยน ตลาดเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

เพิ่มเติมอีก 2 เงื่อนไข

**ความรู้** - เรียนรู้ตลอด ไม่ว่าจากหนังสือ ผู้เชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ของคนอื่น ความรู้คือโล่กลับลูกศรวิกฤต

**คุณธรรม** - ซื่อสัตย์ ขยัน หนักแน่น วิธีนี้จึงเกิดความเชื่อถือ ธุรกิจจึงยั่งยืน

## ประยุกต์ในชีวิตประจำวันสำหรับเรา

ถ้าอยากเอาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้กับตัวเอง ควรทำแบบนี้

- เลือกอาชีพที่สุจริต ทำให้หัวไม่ปวด นอนหลับสนิท
- ทำงานเพื่อมีสมดุล ไม่เครียดจนปวดหัว ไม่เลิกลำการเที่ยว ไม่เนิ่นนานชีวิต
- หารายได้โดยสัตยะ ไม่เอาเปรียบใคร
- เก็บออมตามแผน ไม่เผลออกแบบนี้
- ใช้เงินตามความเหมาะสม ไม่เขิน ไม่สิ้นเปลือง ดูสมดุลดี
- ลงทุนอะไร ต้องศึกษาก่อน ไม่ทำตามคนอื่น

## ท้ายสุด

เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่วิธีชีวิตแบบอยู่ร่ืนรมชั้นเดียว แต่เป็นปรัชญาสากลที่ใช้ได้ทั่วไป ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการเล็ก ๆ ไปจนถึงบริษัทใหญ่ ธนาคาร หรือแม้แต่การค้าการลงทุนนานาชาติ ทั้งหมดที่ต้องทำคือ จำไว้ว่า "พอเพียง" ไม่ใช่ "ไม่มี" แต่เป็น "มีเพียงพอ" และเมื่อมีเพียงพอแล้ว ความทุกข์ยากแล้วต้องหลุด