Lạm phát tăng cao nhưng vẫn có thể dự đoán được. Mẹo đầu tư để vượt qua nền kinh tế biến động

2025-12-24 22:44:42

เงินเฟ้อคืออะไร? ทำไมถึงต้องห่วง

เงินเฟ้อ นั่นคือภาวะที่ราคาสินค้าและบริการวิ่งตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผลที่ตามมาคือเงินในกระเป๋าของเราไม่มีค่าเท่าเดิม หมายความว่า เมื่อก่อนด้วยเงิน 50 บาทซื้ออะไรได้เยอะ แต่วันนี้ 50 บาทเดิมซื้อได้แค่ของน้อย ๆ

ผลกระทบ ที่ชัดเจนที่สุด? ความต้องการซื้อของลดลง เพราะสินค้าแพงขึ้น แล้วเงินคนเรายังเป็นเงินเดิม ทำให้กำลังซื้อของคนทั่วไปเรียบง่ายขึ้น

ทำไมเงินเฟ้อถึงขยับขึ้นมาในช่วงนี้?

ไม่ใช่เรื่องไร้สาเหตุ ปัจจุบันมี 3 แรงขับหลักที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งมา:

ที่หนึ่ง: ความต้องการซื้อมากกว่าปริมาณสินค้า หลังจากวิกฤติโควิดผ่านไป ประเทศต่าง ๆ ค่อย ๆ ทยอยเปิดตัว คนก็ตั้งใจจะใช้เงินแบบไม่ยั้ง (Revenge Spending) แต่สินค้าที่ผลิตได้นั้นมาไม่ทัน

ที่สอง: ต้นทุนการผลิดแพงขึ้นอย่างหนักหนา ราคาน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ โลหะสารต่าง ๆ บนตลาดโลกไป up ที่เหล่านี้คือ input ของสินค้านับไม่ถ้วน ผู้ผลิตเลยไม่ได้รับประโยชน์อะไร ต้องเลิกจ้าง ลดการลงทุน ปิดการผลิต

ที่สาม: ห่วงโซ่อุปทานเสีย คอนเทนเนอร์ขนส่งไม่พอ ชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน สินค้า stuck ไปทั่วแสน เลยต้องนั่งราคา

ผลรวม = เงินเฟ้อพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

เงินเฟ้อวัดอย่างไร เปิดตัวเลขให้ดู

ทุกเดือนกระทรวงพาณิชย์ไทยเก็บข้อมูลราคาสินค้า 430 รายการ นำมาคำนวณเป็น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) การเพิ่มขึ้นของ CPI เมื่อเทียบปีต่อปีนั่นแหละคือ อัตราเงินเฟ้อ

สถิติล่าสุด (มกราคม 2567):

ดัชนีราคาผู้บริโภค = 110.3
อัตราเงินเฟ้อ (YoY) = 1.11% ลดลงจากปีที่แล้ว
เป็นต่ำสุดรอบ 35 เดือน

เหตุใด? เพราะราคาพลังงานต่อเนื่องลดลงจากมาตรการรัฐบาล และผักสดลดลงเพราะผลผลิตเพิ่มขึ้น

แต่ดูตารางราคาสินค้าต่อไปนี้ก็รู้ว่าการดำรงชีวิตยังหนักหนา:

สินค้า	2564	2565	2566	2567
หมูเนื้อแดง	137.5 บาท/กก.	205 บาท/กก.	125 บาท/กก.	133.31 บาท/กก.
อกไก่	67.5 บาท/กก.	105 บาท/กก.	80 บาท/กก.	80 บาท/กก.
น้ำมันดีเซล	28.29 บาท/ลิตร	34.94 บาท/ลิตร	33.44 บาท/ลิตร	40.24 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์	28.75 บาท/ลิตร	37.15 บาท/ลิตร	35.08 บาท/ลิตร	39.15 บาท/ลิตร

มองตารางนี้ได้ว่า สินค้าหลัก ๆ ที่เราต้องซื้อในทุกวันยังคงแพงขึ้นไม่เป็นโทษ บุคคลธรรมดากินยากจนขึ้น

ใครได้ประโยชน์? ใครเสียเปรียบ?

ผู้ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ

ผู้ประกอบการ พ่อค้า นักลงทุน - พวกนี้หลบหน้าเงินเฟ้อได้ เพราะสามารถขยับราคาสินค้าขึ้นตามอำเภออยู่ได้ ใครแบบ ปตท. ในครึ่งปีแรกปี 2565 ทำรายได้ 1,685,419 ล้านบาท กำไรสุทธิถึง 64,419 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12.7% จากปีที่แล้ว) - นั่นลูกจ้างไม่ได้กำไร ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็นสาเหตุหลัก

ผู้ถือหุ้น ผู้ถือทองคำ - สินทรัพย์นี้ปรับตามเงินเฟ้อ ยิ่งเงินเฟ้อสูง ราคาสินทรัพย์ก็ยิ่งขยับขึ้น

ผู้เสียเปรียบจากเงินเฟ้อ

คนเงินเดือน - เงินเดือนเพิ่มน้อย เงินเฟ้อเพิ่มมาก อำนาจซื้อลดลง ไม่มีทางรอด

เจ้าหนี้ / ผู้ฝากเงิน - ถ้าเฟ้อร้อยละ 3 แต่ธนาคารให้ดอกเบี้ยแค่ร้อยละ 1 ซื้อหนัก ทำให้สูญเสียค่าเงิน

เงินเฟ้อกับเงินฝืด: ต่างกันตรงไหน?

เงินเฟ้อ: ราคาวิ่งขึ้น → ความต้องการเยอะ → ขยายตัวเศรษฐกิจ (เหมือน ฟิวเจอร์สดี) แต่ถ้าเฟ้อหนัก ๆ (Hyper Inflation) ก็เป็นปัญหา

เงินฝืด: ราคาวิ่งลง → ความต้องการน้อย → ผู้ผลิตไม่อยากผลิต → ปลดพนักงาน → ตกงาน → เศรษฐกิจตาย ยิ่งเลวกว่า

สรุป: เงินเฟ้อที่ “พอดี” ดีต่อเศรษฐกิจ แต่เงินฝืดไม่ดีแม่นแน่

ผลกระทบเงินเฟ้อต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน

ระดับคน

ค่าครองชีพสูงขึ้น
กำลังซื้อลดลง
รายได้ไม่ทัน

ระดับธุรกิจ

ต้นทุนแพง ยอดขาย ลด = กำไรหาย
บางธุรกิจต้องหยุดการลงทุน
อัตราการว่างงานเพิ่ม

ระดับประเทศ

GDP แช่งช้า
ฐานราคาเสี่ยง Stagflation (เงินเฟ้อสูง แต่เศรษฐกิจไม่เติบโต)
ความเสี่ยงรวมระหว่างอุณหภูมิเศรษฐกิจ

คาดการณ์จาก IMF (มกราคม 2567):

โลกจะเติบโต 3.1% ในปี 2567
อาจสูงเพราะความยืดหยุ่นของสหรัฐฯ
แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เพราะนโยบายการเงินตึงตัว

ผลกระทบเงินเฟ้อขึ้นมา ลงทุนอะไรดีกว่า?

1. ฝากดอกเบี้ยสูง

อาจจะไม่จับจ่วง แต่ดอกเบี้ยเฟ้อตัวเอง ดังนั้นเลือกฝากประจำดอกเบี้ยสูง (12-36 เดือน) ขาดมีประมาณ แต่ครับเงินใจเย็น

2. ตราสารหนี้แบบ Floating Rate หรือ Inflation Linked Bond

ดอกเบี้ยปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ ถ้าเฟ้อขึ้น ผลตอบแทนก็ขึ้น อันตรายกำลังพอ

3. ทองคำ

สินทรัพย์ที่ราคาเป็นไปแนวเดียวกับเงินเฟ้อ ยิ่งเฟ้อ ทองคำยิ่งแพง เก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลงผ่าน CFD ไม่ต้องซื้อจริง ๆ

4. หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ

หุ้นธนาคาร - กำไรมาจากส่วนต่างดอกเบี้ย เมื่อดอกเบี้ยสูง ธนาคารกำไรมากขึ้น

หุ้นประกัน - ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนพัฒนาตามเงินเฟ้อ

หุ้นอาหาร - ความต้องการกิน-ใช้ไม่เคยลง ราคา up ปริมาณเดิม ก็กำไร ทำตัวเป็นสินค้า ที่ไม่ยืดหยุ่นต่อราคา

5. อสังหาริมทรัพย์

ค่าเช่าเป็นไปตามเงินเฟ้อ เสถียรภาพสูง ไม่เผันผวน

คำแนะนำ 4 ข้อ เมื่อเงินเฟ้อขยับมา

1. วางแผนลงทุนให้สมดุล - อย่าเก็บเงินนอกธนาคาร ให้เงินทำงาน ลงทุนในสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

2. หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ - ค่าใช้จ่ายสำเร็จ ห้ามกู้ยืมซื้อของไม่จำเป็น

3. ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง - ทองคำ ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ เป็นพื้นที่ปลอดภัย

4. ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ - เงินเฟ้อมีผลต่อทุกอย่าง จากราคาหุ้น ดอกเบี้ย นโยบายรัฐบาล ติดตามอย่างใกล้ชิด

สรุปวนรอบ

เงินเฟ้อ ไม่ใช่ศัตรู ถ้ากำหนดดีที่ระดับปานกลาง มันช่วยให้เศรษฐกิจเติบโต แต่เฟ้อหนัก ๆ มันคร่า ผลพวก Hyper Inflation นั้นจริง ๆ เรียกว่า “ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก”

ผลกระทบเงินเฟ้อ ไม่เท่า แบ่งเคราะห์ เจ้าของธุรกิจ นักลงทุน ผู้ถือสินทรัพย์กำไรปืน แต่คนเงินเดือน เจ้าหนี้ ประชาชนทั่วไปจะเหนื่อย

คำสุดท้าย: นักลงทุนจึงควรใช้เงินเฟ้อให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ตั้งสติรอให้ผ่านไป ลงทุนให้ถูกจังหวะ เลือก สินทรัพย์ที่ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงตามเงินเฟ้อ ติดตามข่าวสาร ก็จะสร้างกำไรได้แน่นอน

Xem bản gốc

Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.