XRPมูลค่าตามราคาตลาด飙升500亿美元的背后是什么？

ผู้เขียน：insights4vc แหล่งที่มา：substack แปลโดย：善欧巴，金色财经

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา XRP เพิ่มขึ้นประมาณ 60.96% จาก $1.46 เป็น $2.35 มูลค่าตลาดเกิน 130 พันล้านดอลลาร์ บทความนี้จะวิเคราะห์พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ระบบนิเวศ และความก้าวหน้าในด้านการทำโทเค็นสินทรัพย์ในโลกจริง (RWA) และการมีส่วนร่วมด้านกฎระเบียบของ Ripple (บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง XRP) อย่างสั้น ๆ

Ripple ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยมีชื่อเดิมว่า OpenCoin และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Ripple Labs ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน Ripple มุ่งเน้นไปที่การชำระเงินข้ามพรมแดนและการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) แกนหลักของระบบนิเวศ Ripple คือ XRP Ledger (XRPL) บัญชีแยกประเภทที่กระจายซึ่งพัฒนาโดย David Schwartz, Jed McCaleb และ Arthur Britto ในปี 2011 มีเป้าหมายเพื่อให้โซลูชันการชำระเงินทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ ขยายตัว และปลอดภัย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Ripple สำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ทันสมัย

ความก้าวหน้าล่าสุดของ XRPL

• การทำโทเค็นของ RWA ที่สำคัญ: ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2024, Ripple ได้ประกาศความร่วมมือกับ Archax ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกที่ได้รับการควบคุมจาก FCA ของสหราชอาณาจักร โดยใช้ XRPL ในการทำโทเค็นกองทุนสภาพคล่องมูลค่า 3.8 พันล้านปอนด์ของ Abrdn นี่เป็นการเปิดตัวโทเค็นของกองทุนตลาดเงินตัวแรกบน XRPL ซึ่งทำให้ตำแหน่งผู้นำของ XRPL ในการทำโทเค็นสินทรัพย์จริงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น.

• Deepening Regulatory Engagement: เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2024 WisdomTree ได้เข้าร่วมกับ Bitwise, 21Shares และ Canary Capital ในการสมัครต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เพื่อเปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) XRP สปอต แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้นของ XRP ในหมู่นักลงทุนสถาบันในขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงการนําเครื่องมือทางการเงินแบบโทเค็นมาใช้อย่างกว้างขวาง

สถานะ XRP: การทบทวนไตรมาสที่สามของปี 2024

รายงานประจำไตรมาสของ Ripple เปิดเผยความก้าวหน้าที่สำคัญของ XRP และตลาดคริปโตที่กว้างขึ้น:

• สถานะทางกฎหมายที่ชัดเจน: ศาลได้ตัดสินว่า XRP ไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ ทำให้สามารถกลับมาจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและตลาดการค้าระหว่างประเทศอื่น ๆ ได้อีกครั้ง การแยกแยะระหว่าง Ripple และ XRP ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง.

• ความสนใจของสถาบันเพิ่มขึ้นอย่างมาก: Grayscale ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ XRP Trust ขณะที่ Bitwise, Canary และ 21Shares ต่างยื่นขอ ETF XRP กันอย่างคึกคัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของสถาบันต่อ XRP ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

• ผลกระทบทางเศรษฐกิจมหภาค: การลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด 50 จุดฐานทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวสูงขึ้น และตลาดคริปโตฟื้นตัวตามไปด้วย นอกจากนี้ การเปิดตัว ETF ของ Ethereum ในสหรัฐฯ ได้ดึงดูดเงินทุนเข้ามา 552.2 ล้านดอลลาร์.

• สภาพแวดล้อมการกำกับดูแล: SEC ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินบางประการในคดี Ripple แต่ยอมรับว่า XRP เองไม่ใช่หลักทรัพย์ ในขณะเดียวกัน ประเทศและภูมิภาคต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฮ่องกง ได้ดำเนินนโยบายการกำกับดูแลคริปโตที่เป็นมิตรมากขึ้น ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากการดำเนินการบังคับใช้ของสหรัฐอเมริกา.

• การขยายตัวทั่วโลก: Ripple ได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบในดูไบและส่งเสริมการลงทุนเชิงกลยุทธ์และกิจกรรมด้านการสนับสนุนเพื่อผลักดันนวัตกรรมในสกุลเงินดิจิทัล.

ด้วยการที่ ETF สกุลเงินดิจิทัลนำการเติบโตของตลาดและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามา ความชัดเจนด้านการกำกับดูแลและความเป็นผู้ใหญ่ของอุตสาหกรรมจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต.

สมาชิกทีมหลัก

• ซีอีโอ:Brad Garlinghouse

• ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหาร: Chris Larsen

• Avid Schwartz ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี: D, XRP Ledger

• XRP ผู้ร่วมก่อตั้งบัญชีแยกประเภท: Arthur Britto

• ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO): Jon Bilich

• ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย (CLO): Stuart Alderoty

• อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง: Jed McCaleb (ปัจจุบันเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Stellar)

Ripple Labs, Inc. (XRP) ข้อมูลการระดมทุน - ยอดรวมการระดมทุน: 2.945 ล้านดอลลาร์

รอบการระดมทุน：

1. รอบที่ยังไม่เปิดเผย

วันที่：11 เมษายน 2013

จำนวนเงินที่ระดมทุน: ไม่เปิดเผย

นักลงทุน: Andreessen Horowitz (a16z), Lightspeed Venture Partners, Vast Ventures

2. รอบเมล็ดพันธุ์

วันที่：14 พฤษภาคม 2013

จำนวนเงินระดมทุน: ยังไม่ได้เปิดเผย

นักลงทุนบางราย: GV (Google Ventures), IDG Capital

3. รอบเมล็ดพันธุ์

วันที่: 12 พฤศจิกายน 2013

จำนวนเงินทุน: 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนบางราย: Core Innovation Capital, Camp One Ventures, IDG Capital, Hinge Capital

4. การระดมทุนรอบ A

วันที่: 3 ธันวาคม 2014

จำนวนเงินทุน：400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนบางส่วน：Santander

5. รอบการระดมทุน A

วันที่: 19 พฤษภาคม 2015

จำนวนเงินทุน: 2800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนบางราย: IDG Capital, Blockchain Capital, Digital Currency Group (DCG), Core Innovation Capital, RRE Ventures, CME Ventures

6. การระดมทุนรอบ A ขยาย

วันที่: 6 ตุลาคม 2015

จำนวนเงินทุน: 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนบางคน: Santander, CME Ventures, SeaGate.io Technology

7. การระดมทุนรอบ B

วันที่：15 กันยายน 2016

จำนวนเงินที่ระดมทุน: 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนที่เลือก: SBI Investment, Accenture, Santander, CME Ventures, SeaGate.io Technology, Hinge Capital

8. รอบการระดมทุน C

วันที่：20 ธันวาคม 2019

การประเมินมูลค่าบริษัท: 98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จำนวนเงินที่ระดมทุน: 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนบางราย: Tetragon Financial Group Limited, SBI Investment, Bossanova Investimentos, Route 66 Venture

เศรษฐศาสตร์โทเค็น

XRP เป็นสินทรัพย์พื้นฐานของ XRP Ledger (XRPL) ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2012 โดยมีจำนวนทั้งหมดที่กำหนดไว้ที่ 1000 ล้านชิ้น ซึ่งทั้งหมดถูกขุดล่วงหน้าเสร็จสิ้นแล้ว.

• ในจำนวนนี้, 800 พันล้าน จัดสรรให้กับ Ripple Labs, 200 พันล้าน จัดสรรให้กับสมาชิกทีมผู้ก่อตั้ง.

• เพื่อเสถียรภาพตลาดและการจัดการปริมาณที่ถืออยู่ Ripple ได้ฝาก 550,000,000,000 XRP ไว้ในบัญชีที่ดูแล ตั้งแต่ปี 2017 โดยจะปล่อยสูงสุด 1,000,000,000 XRP ต่อเดือน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาปล่อยเป็นเวลา 55 เดือน.

• XRP ที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกล็อกใหม่เพื่อขยายเวลาในการปล่อย จนถึงเดือนธันวาคม 2024 Ripple ยังคงถือครองประมาณ 372.4 พันล้าน XRP ในการดูแล.

Stablecoin RLUSD ของ Ripple

Rippleมีแผนที่จะเปิดตัว Stablecoin RLUSD ในวันที่ 4 ธันวาคม 2024 แต่ปัจจุบันถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล Ripple กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานบริการทางการเงินของรัฐนิวยอร์ก (NYDFS) เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการกำกับดูแลที่เข้มงวดและรักษามาตรฐานการดำเนินงานในระดับสูง.

RLUSDภาพรวม:

• เวลาเริ่มประกาศครั้งแรก: เมษายน 2024

• การสนับสนุนสินทรัพย์: สนับสนุนโดยเงินฝากดอลลาร์สหรัฐ, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นและเงินสดเทียบเท่าอย่างเต็มที่.

• เป้าหมาย: RLUSD ในฐานะที่เป็นสเตเบิลคอยน์ที่มุ่งเน้นธุรกิจและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมโซลูชันการชำระเงินข้ามพรมแดนของ Ripple และทำงานร่วมกับ XRP.

• แนวโน้มตลาด: เมื่อพิจารณาว่าตลาดสเตเบิลคอยน์คาดว่าจะเติบโตเกิน 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2028, RLUSD ถูกมองว่าเป็นผู้มีส่วนช่วยสำคัญในพื้นที่การขยายตัวที่รวดเร็วนี้.

ตัวชี้วัดสำคัญ (5 ธันวาคม 2024)

! De0nQM6r1B6yzngNPYSCuLbqeqSXBOiOAAoZymES.png

! csfraF2on4yFVJibhFtEFWZzee7bqhzD2KpNKfwr.png

! YM0IKrXSCBynuqUz2xG5g3oxBNim0tbjDTskod5H.png

XRP บัญชีแยกประเภท: ภาพรวมโดยละเอียด

XRPL แตกต่างจาก บล็อกเชนที่ใช้การพิสูจน์การทำงาน (PoW) หรือการพิสูจน์สัดส่วน (PoS) โดยใช้แบบจำลองการเห็นชอบแบบพันธมิตร ซึ่งไม่ต้องการการขุดหรือการวางเดิมพันเพื่อให้ผู้ตรวจสอบสามารถบรรลุความเห็นพ้องในสถานะของบัญชีแยกประเภท โปรโตคอลฉันทามติถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความล่าช้า และลดค่าใช้จ่ายในการคำนวณ เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว.

เครือข่ายผู้ตรวจสอบและรายการโหนดเดียว (UNL)

เครือข่าย XRPL ประกอบด้วยผู้ตรวจสอบมากกว่า 109 รายที่กระจายอยู่ทั่วโลก ชุดผู้ตรวจสอบเหล่านี้สร้างรายการโหนดเฉพาะ (UNL) ซึ่งมีความสำคัญต่อการบรรลุฉันทามติ UNL ประกอบด้วยผู้ตรวจสอบที่เชื่อถือได้ 31 ราย รวมถึง Arrington XRP Capital, Bifrost Wallet, Ripple Labs และ XRPScan แม้ว่าหน่วยงานใด ๆ ก็สามารถดำเนินการผู้ตรวจสอบและเผยแพร่ UNL ได้ แต่ UNL เริ่มต้นมีอิทธิพลอย่างมากจาก Ripple Labs และ XRP Ledger Foundation.

ปัญหาการรวมศูนย์:

การตั้งค่า UNL เริ่มต้นที่พึ่งพาองค์กรที่มีอิทธิพลได้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาการกระจายอำนาจ นักวิจารณ์เชื่อว่ากระบวนการเลือกผู้ตรวจสอบที่เชื่อถือได้ไม่ได้เป็นแบบไม่มีสิทธิ์เข้าถึงโดยสมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้จิตวิญญาณของการกระจายอำนาจของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนเน้นว่าผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน UNL ของตนเองได้ตามต้องการ ทำให้สามารถสร้างระดับการกระจายอำนาจตามความชอบด้านความไว้วางใจส่วนบุคคลได้.

กระบวนการความเห็นพ้อง

กระบวนการเห็นพ้องใน XRPL ดำเนินการผ่านรอบการวนซ้ำ ซึ่งผู้ตรวจสอบจะเสนอและเห็นพ้องที่จะรวมชุดการทำธุรกรรมในเวอร์ชันบัญชีถัดไป กระบวนการนี้ประกอบด้วย:

1. ระยะเสนอ: ผู้ตรวจสอบส่งชุดการทำธุรกรรมที่เสนอ.
2. ขั้นตอนการลงคะแนน: ผู้ตรวจสอบจะปรับข้อเสนอของตนตามข้อเสนอที่ได้รับจากเพื่อนร่วมงาน UNL.
3. บรรลุฉันทามติ: เมื่อมีการตกลงกันโดยส่วนใหญ่ (โดยปกติประมาณ 80%) ชุดการทำธุรกรรมจะถูกนำไปใช้ในบัญชีแยกประเภท.
4. การตรวจสอบบัญชีแยกประเภท: ผู้ตรวจสอบเผยแพร่ข้อมูลการตรวจสอบลายเซ็นที่มีค่าแฮชของบัญชีแยกประเภทใหม่เพื่อยืนยันฉันทามติ.

กลไกนี้ทำให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมทุกคนตกลงเกี่ยวกับสถานะของบัญชีแยกประเภทและลำดับของธุรกรรม โดยไม่จำเป็นต้องมีกิจกรรมการขุดที่ใช้ทรัพยากรมาก

ความเร็วในการทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียม และเงินสำรองในบัญชี

ความเร็วในการทำธุรกรรม

มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญในความเร็วและความจุของธุรกรรมระหว่างแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่แตกต่างกัน XRP ประมวลผลธุรกรรมภายใน 3 ถึง 5 วินาทีและรองรับปริมาณงานประมาณ 1,500 ธุรกรรมต่อ (TPS) วินาที Solana บรรลุความเร็วในการทําธุรกรรมย่อยวินาทีด้วยความจุสูงสุด 65,000 TPS ในการเปรียบเทียบ Bitcoin ใช้เวลามากกว่า 10 นาทีต่อธุรกรรมและประมวลผล 5 ถึง 6 TPS ในขณะที่ Ethereum ประมวลผลธุรกรรมในอัตรา 13 ถึง 15 TPS

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมของ XRPL ต่ำมาก โดยแต่ละธุรกรรมจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.00001 XRP ค่าธรรมเนียมที่ต่ำเช่นนี้ทำให้มันมีความสามารถในการทำกำไรสำหรับผู้ใช้ที่ทำธุรกรรมบ่อยและการชำระเงินขนาดเล็ก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบัญชีแยกประเภทที่ส่งเสริมการโอนค่าที่มีประสิทธิภาพ

ขีดจำกัดทรัสต์และข้อกำหนดเงินสำรอง

ด้านที่โดดเด่นของ XRPL คือการใช้ สายความไว้วางใจ ในการจัดการโทเค็น เพื่อเปิดใช้งานบัญชี XRPL ใหม่ ผู้ใช้ต้องมีการเก็บรักษาอย่างน้อย 10 XRP นอกจากนี้ แต่ละประเภทโทเค็นที่ถืออยู่ในกระเป๋าเงินต้องมีการเก็บรักษาเพิ่มเติม 2 XRP การสำรองเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นมาตรการป้องกันสแปม เพื่อป้องกันการขยายตัวของบัญชีแยกและหยุดกิจกรรมที่เป็นอันตราย.

ฟังก์ชันสายความเชื่อถือ:

• ข้อตกลงสองฝ่าย: สายความไว้วางใจทำหน้าที่เป็นข้อตกลงเครดิตระหว่างบัญชีสองบัญชี กำหนดยอดคงเหลือของแต่ละโทเค็นและพารามิเตอร์ความไว้วางใจ.
• การรับโทเค็นตามความยินยอม: มันทำให้แน่ใจว่าไม่มีบัญชีใดสามารถบังคับโทเค็นไปยังบัญชีอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เก็บรักษาการควบคุมต่อสินทรัพย์ที่ได้รับ
• การควบคุมการซื้อขาย: เส้นความไว้วางใจสามารถทำให้สินทรัพย์ถูกแช่แข็ง, ขออนุญาตการโอนเงิน และตั้งค่าธง "ไม่มีคลื่น" เพื่อป้องกันการปรับยอดเงินที่ไม่ตั้งใจ เป็นต้น.

กลไกคลื่น

XRP เล่ม (XRPL) สามารถช่วยในการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพโดยการปรับยอดเงินโทเค็นระหว่างสายความเชื่อมโยงที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมโดยตรงของผู้ออก ผู้ใช้สามารถควบคุมฟังก์ชันนี้ได้:

• เปิดใช้งานแล้ว: เหมาะมากสำหรับผู้สร้างตลาดและหน่วยงานกลางในการเพิ่มสภาพคล่อง.
• ถูกปิดการใช้งาน: แนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการป้องกันการปรับสมดุลโดยไม่ตั้งใจใช้งาน.

ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้สามารถปรับแต่งการเข้าร่วมเครือข่ายตามความต้องการของผู้ใช้ได้

ใช้สำหรับการเพิ่มฟังก์ชัน

Hooks เป็น WebAssembly ที่มีน้ำหนักเบา (WASM) ที่สามารถทำให้การทำธุรกรรมอัตโนมัติ การตรวจสอบความสอดคล้อง หรือการแก้ไขการชำระเงินเป็นฟังก์ชันที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ Hooks ถูกปรับใช้บนเครือข่าย Xahau (ด้านข้างของ XRPL) เพื่อเพิ่มความสามารถในการเขียนโปรแกรมในขณะที่ยังคงความเสถียรของเครือข่ายหลัก

EVM เข้ากันได้กับเชนข้าง

การพัฒนาข้างเคียงที่เข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) มีเป้าหมายเพื่อ:

• ดึงดูดนักพัฒนา Ethereum และ dApp.
• การโอนสินทรัพย์ข้ามสายผ่านโซลูชันสะพานเช่น Axelar

ขณะนี้อยู่ในระยะการทดสอบ โซ่ข้างนี้ใช้ XRP เป็นก๊าซ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ XRPL เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกันของบล็อกเชนที่กว้างขึ้น.

การรวม AMM ดั้งเดิม

XRPL ของผู้สร้างตลาดอัตโนมัติ (AMM) สามารถทำการซื้อขายโทเค็นแบบกระจายศูนย์และการจัดหาสภาพคล่องโดยตรงบนบันทึกบัญชี รองรับ:

• สระสภาพคล่องของคู่โทเคน.
• สามารถเข้าร่วมการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาภายนอก.

AMM นี้ได้เสริมสร้างความน่าสนใจของ XRPL ในระบบนิเวศ DeFi.

การอธิบายโปรโตคอลการเห็นพ้องของบัญชี XRP

! iX3wwpKj2N0rZQhub5NuHEnuW23FMVrBlYbbyrxl.png

กลไกการเห็นพ้องกันเป็นเสาหลักของระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเห็นพ้องกันเกี่ยวกับสถานะของบัญชีแยกประเภท โดยไม่ต้องมีการควบคุมแบบส่วนกลาง โปรโตคอลการเห็นพ้องกันของบัญชีแยกประเภท XRP เน้นความมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยืดหยุ่นต่อความล้มเหลว

คุณสมบัติหลัก

1. โปรโตคอลบัญชี: รับประกันการบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับสถานะล่าสุดและลำดับการทำธุรกรรม.
2. การกระจายอำนาจ: ทำงานโดยไม่ต้องมีอำนาจกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงจุดล้มเหลวเดียว.
3. ความมั่นคง: แม้ว่าผู้เข้าร่วมจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือประพฤติตนไม่เหมาะสม ยังสามารถทำให้เกิดความก้าวหน้าได้.
4. ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ: ให้ความสำคัญกับความถูกต้องเป็นอันดับแรก และหยุดกระบวนการตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องในกรณีที่เกิดการหยุดชะงัก.
5. ประสิทธิภาพ: หลีกเลี่ยงกระบวนการที่ใช้พลังงานสูงแบบทั่วไปในระบบการพิสูจน์การทำงาน (PoW).

การป้องกันการชำระเงินสองครั้ง

เพื่อป้องกันการชำระเงินซ้ำ XRPL จะจัดลำดับธุรกรรมในลักษณะที่แน่นอน ธุรกรรมที่ขัดแย้งกันจะถูกตรวจสอบเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขข้อขัดแย้งแบบรวมศูนย์.

โครงสร้างบัญชี

แต่ละเวอร์ชันของบัญชีแยกประเภทประกอบด้วย:

• สถานะปัจจุบัน: ยอดเงินในบัญชีและวัตถุ.
• กลุ่มการซื้อขาย: ใช้สำหรับการทำธุรกรรมในบัญชีแยกประเภทก่อนหน้า.
• ข้อมูลเมตา: รายละเอียดเช่นแฮชเข้ารหัสและดัชนีบัญชีแยกประเภท.

โครงสร้างนี้สร้างประวัติการทำธุรกรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยแต่ละบัญชีแยกประเภทจะมีสถานะปัจจุบันที่สมบูรณ์เพื่อการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว.

การตรวจสอบที่ใช้ความเชื่อถือ

ผู้เข้าร่วมจะสร้าง รายการโหนดที่ไม่ซ้ำกัน (UNL) ซึ่งผู้ตรวจสอบความเชื่อถือจะไม่ทำการกระทำที่ไม่ดี โมเดลความเชื่อถือแบบนี้สนับสนุนความปลอดภัยของระบบ: ผู้ตรวจสอบจะมีอิทธิพลต่อเฉพาะผู้ที่เชื่อถือพวกเขาเท่านั้น.

กระบวนการเห็นพ้องรวมถึง:

1. ข้อเสนอ: ผู้ตรวจสอบส่งชุดการทำธุรกรรม.
2. การลงคะแนน: ผู้ตรวจสอบปรับเปลี่ยนข้อเสนอขึ้นอยู่กับการป้อนข้อมูลจากเพื่อนร่วมงาน.
3. ฉันทามติ: ความเห็นเป็นเอกฉันท์ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการทำธุรกรรม.
4. การตรวจสอบ: ผู้ตรวจสอบลงนามและเผยแพร่บัญชีแยกประเภทใหม่.

ความทนทานและความปลอดภัย

• ข้อผิดพลาดของผู้ตรวจสอบ: จัดการกับผู้ตรวจสอบที่ล้มเหลวได้สูงสุดถึง 20%; หากการล้มเหลวเกิน 20% แต่ยังต่ำกว่า 80% ให้หยุดเพื่อรักษาความสมบูรณ์.
• ต่อต้านการโจมตีของแม่มด: ผลกระทบจากความเชื่อใจและการเลือก UNL ด้วยตนเองที่จำกัดผลกระทบของตัวตนปลอม.
• การตรวจสอบที่ไม่เปลี่ยนแปลง: ปฏิเสธการทำธุรกรรมที่ละเมิดกฎ เช่น การสร้าง XRP โดยไม่ได้รับอนุญาต.

กลไกค่าธรรมเนียมที่ปรับตามตัวเอง

ผู้ตรวจสอบจะปรับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและข้อกำหนดการสำรองอย่างมีพลศาสตร์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเข้าถึงและการปกป้องเครือข่าย พารามิเตอร์สำคัญรวมถึงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมพื้นฐาน ยอดสำรองบัญชี และยอดสำรองเจ้าของ การตัดสินใจจะทำผ่านการลงคะแนนแบบมีค่ากลาง

การเพิ่มประสิทธิภาพ: ลบ UNL

เพื่อรักษาความก้าวหน้าในช่วงที่มีการหยุดชะงัก, Negative UNL จะทำการคัดแยกผู้ตรวจสอบที่ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว, ปรับเกณฑ์จำนวนขั้นต่ำ, และรวมกลับเมื่อมีการฟื้นฟู ฟังก์ชันนี้ช่วยให้มั่นใจถึงความต่อเนื่องโดยไม่ทำให้ความปลอดภัยลดลง.

Ripple: การพัฒนาในด้านการกำกับดูแลและกฎหมาย

Ripple ประสบกับความท้าทายด้านการกำกับดูแลตลอดประวัติการดำเนินงาน ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนในการนำทางในสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล

เหตุการณ์สำคัญ:

• 5 พฤษภาคม 2015: Ripple ถูกปรับ 700,000 ดอลลาร์สหรัฐโดยเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายทางการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (FinCEN) เนื่องจากการละเมิดกฎหมายการรักษาความลับของธนาคาร (รวมถึงการดำเนินการในฐานะบริษัทบริการเงินที่ไม่ได้จดทะเบียน (MSB)) โดย Ripple ตกลงที่จะดำเนินการตามมาตรการด้านความสอดคล้องและเพิ่มประสิทธิภาพในโปรโตคอลของตน.
• 13 มิถุนายน 2016: Ripple ได้รับ BitLicense ที่ออกโดยแผนกบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก กลายเป็นบริษัทที่สี่ที่ได้รับใบอนุญาตนี้
• กันยายน 2017: บริษัทบล็อกเชน R3 ฟ้อง Ripple เพื่อบังคับใช้ข้อตกลงในการซื้อ 5,000 ล้าน XRP ในราคา 0.0085 ดอลลาร์ Ripple โต้แย้งว่าเมื่อมูลค่า XRP พุ่งสูงขึ้น R3 มีพฤติกรรมเก็งกำไร ข้อพิพาทนี้ได้รับการแก้ไขใน กันยายน 2018 ตามเงื่อนไขที่ไม่เปิดเผย.
• กุมภาพันธ์ 2020: รายงานโดย Financial Times ว่า MoneyGram ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของ Ripple ได้รับเงิน 50 ล้านดอลลาร์จาก Ripple ก่อนที่จะนำเครื่องมือสภาพคล่องที่ใช้ XRP มาใช้ Ripple ได้ให้เครื่องมือเหล่านี้ฟรี และในไตรมาสที่สี่ของปี 2019 ได้มีการให้เงินอุดหนุนรวม 8.9 ล้านดอลลาร์ การขาย XRP ถูกมองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของรายได้ของ Ripple.
• 22 ธันวาคม 2020: คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้กล่าวหาว่า Ripple และผู้บริหารของบริษัท Christian Larsen และ Brad Garlinghouse ระดมทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์ผ่านการออกหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนซึ่งเกี่ยวข้องกับ XRP โดย Ripple ได้คัดค้านข้อกล่าวหาดังกล่าว และศาลได้จำกัดสิทธิ์ของ SEC ในการเข้าถึงบันทึกธนาคารจำนวนมากของจำเลย.
• กรกฎาคม 2023: ศาลแขวงสหรัฐฯ ได้มีคำตัดสินที่สำคัญในคดีหนึ่งว่าการขาย XRP ที่ทำการซื้อขายแบบโปรแกรมในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถือเป็นหลักทรัพย์ภายใต้การทดสอบฮาวเวอร์ แต่การขายและการระดมทุนที่เกี่ยวข้องกับ XRP อาจถือเป็นหลักทรัพย์ หลังจากการฟ้องร้องเป็นเวลาสองปี ผู้พิพากษา Analisa Torres ได้ออกคำตัดสินนี้.
• ตุลาคม 2023: SEC ได้ยกเลิกคดีที่ฟ้องร้อง Garlinghouse และ Larsen ผู้บริหารของ Ripple ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าคดีนี้ได้รับการแก้ไขบางส่วนแล้ว.
• เดือนมิถุนายน 2024: Ripple เปิดเผยว่าค่าทนายความในการป้องกันทางกฎหมายต่อ SEC ได้เกิน 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นให้เห็นถึงแรงกดดันทางการเงินที่เกิดจากการตรวจสอบด้านกฎระเบียบที่ยาวนาน.

สรุป

XRP มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 500 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในตลาดที่กลับมา แต่ผู้คนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการนำไปใช้ในระยะยาวโดยสถาบันและความท้าทายด้านการกำกับดูแล ความก้าวหน้าของ Ripple (รวมถึงแผนการเงินที่ใช้โทเค็นและการสมัคร ETF) แสดงให้เห็นว่ามีความก้าวหน้า แต่ก็เผชิญกับอุปสรรค โดยเฉพาะในการจัดการกับกรอบกฎหมายและระดับโลกที่ซับซ้อน แม้ว่าการตัดสินของ SEC จะชี้แจงสถานะของ XRP ในบางกรณี แต่ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ ซึ่งเน้นความจำเป็นในการมีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับบทบาทของมันในระบบนิเวศทางการเงินที่กำลังพัฒนา