Apa itu trading, apakah benar bisa menghasilkan keuntungan, dan teknik terbaik untuk pemula

บทความนี้จะนำเสนอความรู้ครบถ้วนเกี่ยวกับ การเทรด วิธีการเทรดที่มีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี เราจะสร้างพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดการเงิน ความเสี่ยง และวิธีการทำกำไรอย่างเหมาะสม

การเทรดคืออะไร มาทำความเข้าใจพื้นฐาน

การเทรด เป็นกิจกรรมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อให้ได้กำไร สินทรัพย์เหล่านี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่หุ้น สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ไปจนถึงคริปโทเคอร์เรนซี

ตลาดการเงินในโลกมีตัวเลือกมากมายให้นักเทรดสำรวจ เช่น ดัชนีหุ้นต่างๆ เช่น S&P 500 หรือ FTSE 100 สกุลเงินทั่วโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐและเยนญี่ปุ่น หรือแม้แต่สินค้าธรรมชาติ เช่น น้ำมันหรือข้าวโพด

เพื่อเริ่มต้น นักเทรดต้องเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์ที่เชื่อถือได้ แพลตฟอร์มเหล่านี้มีตลาดการเงินที่หลากหลาย ช่วยให้คุณคาดเดาทิศทางของราคาว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง

หลักการพื้นฐานของการเทรด

หลักการของการเทรดคือการซื้อขายในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อทำกำไรจากความแตกต่างของราคาสินทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีกลยุทธ์ใดที่รับประกันกำไร 100% แต่ถ้าใช้กลยุทธ์ที่ผ่านการวิเคราะห์ และวางแผนอย่างสมบูรณ์ โอกาสกำไรจะมากกว่าโอกาสขาดทุนอย่างแน่นอน

การวิเคราะห์ที่จำเป็นในการเทรด

การวิเคราะห์ปัจจัยเศรษฐกิจ นักเทรดต้องเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจปัจจุบันของธุรกิจที่ลงทุน รู้ว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลกระทบ

การวิเคราะห์อุตสาหกรรม จำเป็นต้องศึกษาแนวโน้มของอุตสาหกรรม สภาพปัจจุบันของตลาด และการเติบโตที่คาดหมาย

การวิเคราะห์บริษัท ต้องวิเคราะห์ปัจจัยภายใน ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ เพื่อตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่

นักเทรดมืออาชีพจะผสมผสาน Fundamental Analysis (วิเคราะห์พื้นฐาน) กับการศึกษาความน่าจะเป็นและคาดการณ์แนวโน้มอนาคต

5 สิ่งสำคัญก่อนเริ่มเทรด

1. สำรวจเหตุผลของคุณเอง ทำไมถึงอยากเทรด เพื่อให้หารูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเก็บออมระยะยาว หรือสร้างรายได้เสริมในระหว่างทำงาน

2. ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด การเทรดเกี่ยวข้องกับเงินทุน ต้องมีความรู้ความเข้าใจเพียงพอก่อน

3. เรียนรู้คำศัพท์เฉพาะ มีคำศัพท์ทางการเทรดมากมายที่ต้องหมั่นศึกษา เพื่อให้เทรดได้อย่างลื่นไหล

4. จัดการความเสี่ยง ตั้งข้อตกลงกับตัวเองว่าสามารถรับมือกับการขาดทุนได้เท่าไหร่ เพื่อลดความเสี่ยง

5. เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ ต้องเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่มีความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียมเหมาะสม และบริการลูกค้าที่ดี

การเลือกแพลตฟอร์มการเทรด

ในการเลือกเว็บไซต์การเทรด ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ได้แก่ การออกแบบที่ใช้งานง่าย ค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม และการสนับสนุนภาษาของคุณ

สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อตกลงอย่างละเอียด รู้ว่าค่าธรรมเนียมจะเป็นเท่าไหร่ และตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มได้รับการควบคุมดูแลจากหน่วยงานที่มีอำนาจหรือไม่

แพลตฟอร์มที่ดีควรมีตัวเลือกสินทรัพย์มากมาย ตั้งแต่คริปโท หุ้น ดัชนี CFD ไปจนถึง Forex และสินทรัพย์อื่นๆ

วิธีการเทรดที่มีให้เลือก

การเทรดหุ้น

การเทรดหุ้นคือการซื้อขายหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเทรดหุ้น ต้องเปิดบัญชีหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์

บริษัทหลักทรัพย์ทำหน้าที่รับคำสั่งการเทรด ส่งไปยังระบบตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้จับคู่คำสั่งซื้อขาย ชำระเงิน และนำหุ้นเข้าบัญชี

ทำกำไรได้จริงไหม ได้ เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นในอดีตดีกว่าวิธีอื่นๆ แม้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวน แต่ในระยะยาว มักจะขึ้นไปสูงกว่าเดิม

นอกจากนี้ บริษัทดีๆ บางแห่งยังจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น ทำให้หุ้นกลายเป็นวิธีการสะสมความมั่งคั่ง และยังสามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้

การเทรดคริปโท

คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือสกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์เข้ารหัสที่ไม่มีตัวตน สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน

วิธีการเทรดคริปโทที่นิยมคือ Scalping ซึ่งเป็นการเทรดระยะสั้นที่จับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อย แล้วรีบขายทำกำไรอย่างรวดเร็วภายในนาทีหรือวินาที

กลยุทธ์นี้ต้องใช้สมาธิสูงและอาจเปิด Position หลายสิบหรือนับร้อยพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสกำไร โดยดูกราฟในระยะเวลาสั้นๆ เช่น 1-5 นาที

การเทรด Forex

Forex (Foreign Exchange) คือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยราคาจะแปรผันตามอุปสงค์และอุปทาน

Forex ถือเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงยกเว้นวันหยุด ใช้เงินลงทุนต่ำ แต่สามารถสร้างกำไรได้สูงด้วย leverage

อย่างไรก็ตาม leverage ก็ทำให้ขาดทุนได้สูงเช่นกัน

คู่เงิน Forex ที่นิยมได้แก่:

• EUR/USD (Euro – US Dollar)
• USD/JPY (US Dollar – Japanese Yen)
• GBP/USD (British Pound – US Dollar)
• AUD/USD (Australian Dollar – US Dollar)
• USD/CHF (US Dollar – Swiss Franc)

การเทรด CFD

CFD (Contract for Difference) คือสัญญาซื้อขายส่วนต่างของราคา เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น

กับ CFD คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง แต่ได้รับผลกำไรราวกับเป็นเจ้าของ นักเทรดสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

อย่างไรก็ตาม การเทรด CFD มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและฝึกฝนให้ดีก่อนลงทุนจริง

การเทรดทองคำ

ทองคำเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายกันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงินทั่วโลก เนื่องจากมีความผันผวนน้อย ปลอดภัย

นักลงทุนสามารถเทรดทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องถือทองจริง

วิธีการเทรดทองคำที่นิยมคือการใช้ CFD ให้ได้ผลกำไรเหมือนเป็นเจ้าของทองคำจริง โดยไม่ต้องผูกเงินทุนมากมาย

3 กลยุทธ์การเทรดหลัก

1. Day Trading: ทำกำไรระยะสั้น

คืออะไร การซื้อขายสินทรัพย์ภายในวันเดียว กลยุทธ์นี้นิยมใช้ในการเทรดหุ้นและคริปโท เทรดเดอร์จะซื้อขายเป็นจำนวนหลายรอบ

ข้อดี

• สร้างกำไรจากการลงทุนในวันเดียว
• มีปริมาณการซื้อขายสูง
• มีระยะทำกำไรมากในแต่ละวัน
• ไม่ต้องติดตามพอร์ตตลอดทั้งวัน

ข้อเสีย

• ราคามีความผันผวนสูง
• ต้นทุนค่าธรรมเนียมสูง
• ต้องมีประสบการณ์เพื่อวางแผนให้ได้กำไรสูง
• อาจขาดทุนทันทีในวันเดียว

2. Long Term Trading: ทำกำไรระยะยาว

คืออะไร วิธีการเทรดที่ให้ผลตอบแทนดีและปลอดภัยมากที่สุด แตกต่างจากการเทรดระยะสั้น นักเทรดต้องทำความเข้าใจตลาดในมุมมองกว้าง

ข้อดี

• มีความเครียดน้อย ไม่ต้องติดตามกราฟตลอดเวลา
• โอกาสทำกำไรมากขึ้น ไม่ต้องถอนเงินรวดเร็ว
• สามารถทำงานประจำและเทรดได้พร้อมกัน
• ลดความเสี่ยง

ข้อเสีย

• ไม่เหมาะกับคนใจร้อน
• ต้องมีความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเศรษฐกิจมากมาย
• ต้องติดตามข่าวเศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

3. Swing Trading: ทำกำไรระยะกลาง

คืออะไร การเทรดที่คาดหวังกำไรในระยะกลาง โดยเก็บ Position เป็นเวลาไม่กี่วันถึงหลายสัปดาห์ ส่วนต่างราคาอาจมากกว่า Day Trading หลายเท่า

ข้อดี

• ใช้เวลาติดตามหน้าจอน้อยกว่า Day Trade
• เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานประจำหรือมีเวลาน้อย
• ต้นทุนค่าธรรมเนียมต่ำกว่า เพราะเทรดน้อยครั้ง

ข้อเสีย

• ต้องแลกกับเวลามากมายในการติดตามตลาด
• ต้องใช้สมาธิสูงมากและมีวินัยสูง
• ต้นทุนรวมอาจสูงเพราะเทรดบ่อยๆ
• ไม่เหมาะกับนักเทรด Full Time

วิธีประสบความสำเร็จในการเทรด

1. หาความรู้อย่างต่อเนื่อง

อ่านบทความ วิธีการเทรด และกลยุทธ์ต่างๆ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หากมีงบประมาณ ลองซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเทรดมาศึกษา

2. ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

การฝึกฝนจะทำให้ประสบการณ์ดีขึ้น ลองใช้บัญชีทดลองเทรดฟรี (Demo Account) ที่มีเงินเสมือนจริง เพื่อทดลองกลยุทธ์ต่างๆ ก่อนเทรดด้วยเงินจริง

3. ไม่ใส่อารมณ์

การเทรดต้องหลีกเลี่ยงความโลภและการตัดสินใจโดยอารมณ์ ควรดูปัจจัยอื่นๆ และการวิเคราะห์ที่ครบถ้วน

4. ความสม่ำเสมอ

ไม่มีนักเทรดคนไหนทำกำไรได้ทุกวัน บ่อยครั้งที่วันนี้ขาดทุน แต่วันถัดไปอาจได้กำไร สำคัญคือต้องใช้เงินเย็นและควบคุมความเสี่ยง

5. เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

สิ่งสำคัญคือเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ มีหน่วยงานควบคุมดูแล บริการลูกค้าดี และค่าธรรมเนียมที่ยุติธรรม

สรุป: การเทรดคืออะไรและทำกำไรได้จริง

การเทรดมีหลายวิธีให้ทำกำไรได้ แต่นักเทรดต้องหมั่นศึกษาและเพิ่มพูนความรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะราคาสินทรัพย์ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลก

วิธีที่เลือกขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัย ความยอมรับความเสี่ยง และเป้าหมายการลงทุนของตัวเองเอง ต้องทำความเข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทนของแต่ละวิธี

คำถามที่ถูกถามบ่อย

ฉันสามารถเทรดได้ด้วยวิธีใดบ้าง

คุณสามารถเทรดผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น CFD ซึ่งช่วยให้เก็งกำไรในราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง คุณต้องเปิด Position โดยใช้มาร์จิ้น (เลเวอเรจ) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยง เนื่องจากกำไรและขาดทุนขึ้นอยู่กับขนาด Position ทั้งหมด ไม่ใช่แค่เงินฝากเท่านั้น

นั่นคือเหตุผลที่การจัดการความเสี่ยงมีความสำคัญมากในการเทรด

จุดประสงค์ของการเทรดคืออะไร

การเทรดคือการทำธุรกรรมซื้อขายที่บ่อยครั้ง เช่น หุ้น สินค้า คู่สกุลเงิน หรือตราสารอื่นๆ เป้าหมายคือสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าการลงทุนแบบซื้อถือระยะยาว

ในขณะที่นักลงทุนอาจพอใจกับผลตอบแทน 10-15% ต่อปี นักเทรดอาจแสวงหากำไร 10% ต่อเดือนหรือมากกว่านั้น